อาชีพ เภสัชกร
เรียนสายวิทย์-คณิต

1. วิเคราะห์ความผิดพลาดจากครั้งก่อน
2. หยุดพักจากการเล่นโซเชียลมีเดีย
3. สร้างสมาธิก่อนการอ่านหนังสือ
4. ทบทวนเนื้อหาและทำแบบฝึกหัด
5. ทำสรุปความเข้าใจของตนเอง
6. ติวกับเพื่อน
10 เคล็ดลับ จำง่าย การอ่านหนังสือสอบ

1. ปิด ทีวี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต mp3 มีสติอยู่กับหนังสือ
2. นั่งสมาธิสัก 5 นาที
3. อ่านหนึ่งรอบ แล้วสรุป โดยไม่เปิดหนังสือ
4. เช็คคำตอบ
5. อ่านอีกหนึ่งรอบ
6. สรุปใหม่ เปิดหนังสือได้เอาไว้อ่าน
7. ถ้าทำเป็น Mind Mapping จะอ่านง่ายขึ้น
8. มีเอกสารอะไรที่ครูแจก อย่าคิดว่าไม่สำคัญ
9. ท่องในส่วนที่ครูพูดย้ำบ่อยๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง/คาบ
10. ก่อนวันสอบ ห้ามหักโหมอ่านหนังสือถึงเที่ยงคืน เพราะสมองจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
เภสัชศาสตร์ คืออะไร ?

คุณสมบัติของการ เป็น เภสัชกร
1.สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปในสาขาเภสัชศาสตร์
2.มีสุขภาพกายและจิตดี ไม่พิการ ไม่ตาบอดสี มีมนุษย์สัมพันธ์ มีความเป็นผู้นำเพราะอาจทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะในงานการผลิต มีบุคลิกภาพดี
3.รักในอาชีพ มีความรับผิดชอบสูง
4.มีความสนใจในวิชาวิทยาศาสคร์ เคมีชีววิทยา และสอบได้คะแนนดีในวิชาเหล่านี้
5.ชอบค้นคว้า ทดลอง ใช้ปัญญาในการวิเคราะห์
6.ละเอียด รอบคอบ ช่างสังเกต
7.มีความซื่อสัตย์
8.ชอบการท่องจำ เพราะต้องจำชนิด ส่วนประกอบของยา ชื่อยาและชื่อสารเคมีในการรักษาโรค ชื่อและประโยชน์ของต้นไม้ที่มียา
คณะเภสัชศาสตร์ หรือ สำนักวิชาเภสัชศาสตร์ (อังกฤษ: School of Pharmacy) เป็นสถานศึกษาพื้นฐานในการผลิตเภสัชกร โดยแบ่งเป็นการศึกษาในระดับปริญญาบัณฑิตและบัณฑิตศึกษา การศึกษาทางเภสัชศาสตร์โดยส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ในหลายประเทศได้จัดหลักสูตรการศึกษาโดยใช้ระยะเวลาการศึกษา 3 - 6 ปี อันประกอบด้วย เภสัชศาสตรบัณฑิต, วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเภสัชศาสตร์ หรือในระดับผู้เชี่ยวชาญทางเภสัชกรรม (Doctor of Pharmacy)
ระยะเวลาที่ใช้ในการสำเร็จการศึกษาจแตกต่างในแต่ละประเทศดังนี้
1.ประเทศไทยใช้เวลา 5 ปี ได้ ภบ หรือเรียน 6 ปี ได้ ภบบ
2.สหภาพยุโรป (European Union) รวมถึงสหราชอาณาจักร เดิมเรียน 4 ปีได้ ภบ ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยเรียน 4 ปี ได้ ภม เลย
3.ประเทศออสเตรเลียใช้เวลา 4 ปี ได้ ภบ ต่ออีก 2 ปีได้ ภม
4.สหรัฐอเมริกาใช้เวลา 4 ปี ได้ ภบ ต่ออีก 2 ปีได้ ภบบ
- บริหารงานเกี่ยวกับการใช้ยาในทางคลินิก (clinical medication management)
- การเฝ้าติดตามสถานการณ์ของโรคเฉพาะ (specialized monitoring) ที่เกี่ยวกับยาและผลของยาทั้งโรค ธรรมดาและซับซ้อน
- ทบทวนการใช้ยาอย่างละเอียดถี่ถ้วน (reviewing medication regimens)ติดตามการรักษาโรคอย่างต่อเนื่อง (monitoring of treatment regimens)
- ติดตามดูแลสุขภาพอนามัยทั่วไปของผู้ป่วย (general health monitoring)
- ปรุงยา (compounding medicines)
- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยทั่วไป (general health advice)
- 8ให้การศึกษาแก่ผู้ป่วยเป็นการเฉพาะ (specific education) เกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคและการรักษาด้วยยา
- ตรวจสอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการจ่ายยา (dispensing medicines)
- ดูแลจัดเตรียม(provision)ยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์(non-prescription medicines)
- ให้คำปรึกษาและแนะนำผู้ป่วยถึงการใช้ยาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด(optimal use of medicines)
- แนะนำและรักษาโรคพื้นๆทั่วไป(common ailments)
- ส่งต่อผู้ป่วยไปยังวิชาชีพสาธารณสุขอื่นที่ตรงกับโรคของผู้ป่วยมากกว่าถ้าจำเป็น
- จัดเตรียมปริมาณยา (dosing drugs) ในผู้ป่วยตับและไตล้มเหลว
- ประเมินผลการเคลื่อนไหวของยาในผู้ป่วย (pharmacokinetic evaluation)
- ให้การศึกษาแก่แพทย์ (education of physicians) เกี่ยวกับการใช้ยาอย่างถูกต้อง
- ร่วมกับวิชาชีพทางด้ายสาธารณสุขอื่นในการสั่งยา (prescribing medications) ให้คนไข้ในบางกรณี
- ดูแล จัดเตรียม จัดหา และรักษาเภสัชภัณฑ์ให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน
อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
ตัวแทนจำหน่ายยา เจ้าของร้านขายยา ผู้ควบคุมห้องทดลองปฏิบัติการ พนักงานตรวจสอบอาหารและยา
การเปรียบเทียบวิชาชีพเภสัชกรรมกับวิชาชีพอื่นๆ
1. เภสัชศาสตร์ กับ แพทยศาสตร์ (Pharmacy VS Medicine)
สมัย ก่อน การเรียนเภสัชศาสตร์จะเน้นที่ตัวผลิตภัณฑ์ (Product-oriented) ส่วนการบริบาลผู้ป่วยนั้น (Patient-oriented) เป็นแนวคิดที่รับจากสหรัฐอเมริกาในยุคหลัง บางคนก็ยังแยกความแตกต่างระหว่างแพทย์กับเภสัชกรไม่ชัดเจน น้องลองดูซิว่า บทบาทหน้าที่ด้านล่างนี้ สมควรเป็นหน้าที่ของเภสัชกรหรือไม่ และซ้อนทับกับหน้าที่ของแพทย์หรือไม่ โดยหน้าที่ของเภสัชกรในการบริบาลทางเภสัชกรรม ประกอบด้วย
- การซักประวัติการใช้ยาของผู้ป่วย
- การบันทึกข้อมูลการใช้ยาของผู้ป่วย
- การประเมินการใช้ยา
- การติดตามผลการรักษาของยา
- การบริการเภสัชสนเทศ
- การให้คำปรึกษาเรื่องยาแก่ผู้ป่วย
- การให้คำปรึกษาเรื่องยาแก่บุคคลากรทางการแพทย์
- การให้ความรู้เรื่องยาแก่บุคคลากรทางการแพทย์
- การเตรียมยามะเร็งและสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือด
- การวิจัยยาในระดับคลินิก

2. เภสัชศาสตร์ กับ เคมี (Pharmacy VS Chemistry)
เภสัชศาสตร์ ก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่ใช้ความรู้ทางเคมีเยอะมาก และบางคนก็สับสนว่าเภสัชต่างจากเคมีอย่างไร หรือนักเคมีสามารถทำงานแทนเภสัชกรได้หรือไม่ จึงมีคำถามที่จะถามนักเคมีและวิศวกรเคมี ดังนี้
- การผลิตยาเม็ดมีกี่วิธี ?
- จงยกตัวอย่างการเพิ่มค่าการละลายของตัวยาในการเตรียมตำรับยาน้ำ ?
- ตำแหน่งใดของตัวยา Sulfamethoxazole ที่มีผล Hypersensitivity Reaction
- Morphine ที่มีฤทธิ์ มีโครงสร้างเป็น (+) หรือ (-) ?
- จงบอกขั้นตอนการศึกษาสารสำคัญในพืชสมุนไพร ?
- การวิจัยยามีขั้นตอนอะไรบ้าง (เช่น Lead Compound และ Phase I-IV) ?
- ช่วงที่ยอมรับได้ในการวิเคราะห์ %LA ของยา Amoxycillin ในรูปแบบแคปซูล คือ ช่วงเท่าใด ?
- สารใดบ้างที่เป็นสารต้องห้ามในอาหาร ?
- ลักษณะเฉพาะของโรงงานผลิตยาฉีดมีอะไรบ้าง ?
- อนุภาคศาสตร์และวิทยากระแสมีผลต่อการผลิตยาอย่างไร ?
- ระบบการประกันคุณภาพของโรงงานยามีอะไรบ้าง
คณะเภสัชศาสตร์
- คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ(สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)
- คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ(สาขาเภสัชกรรมอุตสาหการ)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.เชียงใหม่
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.อุบลราชธานี (สาขาวิชาการบริบาททางเภสัชกรรม)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.อุบลราชธานี (สาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ รับ
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร (สาขาวิชาบริบาทเภสัชกรรม)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหาสารคาม (สาขาวิชาการบริบาททางเภสัชกรรม)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.บูรพา
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ (สาขาเภสัชกรรมอุตสาหการ)
- คณะเภสัชศาสตร์ ม.พายัพ (สาขาการบริบาลทางเภสัชกรรม)
แนวทางในการประกอบอาชีพ
1.ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ทั้งในและต่างประเทศ
2.ทำงานในหน่วยงานของรัฐและเอกชน เช่น เภสัชกรโรงพยาบาล ศูนย์อนามัย สถานีอนามัย
3.เภสัชกรอุตสาหกรรม ในโรงพยาบาล หรือบริษัทจำหน่ายยาทั้งของรัฐและเอกชน แบ่งออกเป็นแผนกผลิต แผนกควบคุมมาตรฐาน และแผนกวิจัย
4.เภสัชกรชุมชน เป็นเจ้าของผู้จัดการหรือเภสัชกรประจำร้านขายยา
5.เภสัชกรการตลาด ทำหน้าที่แนะนำผลิตภัณฑ์ยา
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
- สายงานด้านการตลาด มีความกระตือรือร้น มีความคล่องตัวในการค้าขาย แสวงหาความรู้ด้านการ ตลาด รู้จักวิเคราะห์เศรษฐกิจและสังคมได้เป็นอย่างดี
- สายงานด้านโรงพยาบาล มีความสามารถในการบริหารงาน และการบริการที่ดี
- สายงานราชการ ขึ้นอยู่กับความรู้ ถวามสามารถและผลงานทางวิชาการ
- สายงานด้านเอกชน อยู่ที่ความรู้ความสามารถและผลงาน ความรับผิดชอบและความกระตือรือร้น
- สายงานด้านการตลาด มีความกระตือรือร้น มีความคล่องตัวในการค้าขาย แสวงหาความรู้ด้านการ ตลาด รู้จักวิเคราะห์เศรษฐกิจและสังคมได้เป็นอย่างดี
- สายงานด้านโรงพยาบาล มีความสามารถในการบริหารงาน และการบริการที่ดี
- สายงานราชการ ขึ้นอยู่กับความรู้ ถวามสามารถและผลงานทางวิชาการ
- สายงานด้านเอกชน อยู่ที่ความรู้ความสามารถและผลงาน ความรับผิดชอบและความกระตือรือร้น
สถาบันที่เปิดสอนคณะเภสัชศาสตร์
- เป็นลิงค์ของคณะเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย คลิกได้เลยนะจ๊ะ
- เป็นลิงค์ของคณะเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย คลิกได้เลยนะจ๊ะ
- เป็นลิงค์ของคณะเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย คลิกได้เลยนะจ๊ะ
- คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
- คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
อ้างอิง
https://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=140705&chapter=21
มีความรู้เเละความเข้าใจดี
ตอบลบมีเนื้อหาที่ดี
ตอบลบมีสีสันสวยงามดีค่ะ
ตอบลบเนื้อหาเข้าใจง่าย
ตอบลบสีสันสวยมากค่ะ
ตอบลบ