วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2561

สอบปฏิบัติ


                                                          อาชีพ  เภสัชกร
       

                                  เรียนสายวิทย์-คณิต 

      เทคนิคการเตรียมสอบ

1. วิเคราะห์ความผิดพลาดจากครั้งก่อน
2. หยุดพักจากการเล่นโซเชียลมีเดีย 
3. สร้างสมาธิก่อนการอ่านหนังสือ
4. ทบทวนเนื้อหาและทำแบบฝึกหัด
5. ทำสรุปความเข้าใจของตนเอง
6. ติวกับเพื่อน


10 เคล็ดลับ จำง่าย การอ่านหนังสือสอบ

1. ปิด ทีวี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต mp3 มีสติอยู่กับหนังสือ 
2. นั่งสมาธิสัก 5 นาที 
3. อ่านหนึ่งรอบ แล้วสรุป โดยไม่เปิดหนังสือ 
4. เช็คคำตอบ 
5. อ่านอีกหนึ่งรอบ 
6. สรุปใหม่ เปิดหนังสือได้เอาไว้อ่าน 
7. ถ้าทำเป็น Mind Mapping จะอ่านง่ายขึ้น 
8. มีเอกสารอะไรที่ครูแจก อย่าคิดว่าไม่สำคัญ 
9. ท่องในส่วนที่ครูพูดย้ำบ่อยๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง/คาบ 
10. ก่อนวันสอบ ห้ามหักโหมอ่านหนังสือถึงเที่ยงคืน เพราะสมองจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น


เภสัชศาสตร์ คืออะไร ?
      เภสัชศาสตร์ คือศิลปะในแขนงวิทยาศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับการปรุงผสม ผลิตและจ่ายยา รวมทั้งการเลือกสรรคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการ และให้คำปรึกษาที่เหมาะสม ตรวจสอบทบทวนการใช้ยา พร้อมทั้งติดตามดูแลการใช้ยาของผู้ป่วย  ภาพรวมของเภสัชศาสตร์คือระบบความรู้ที่ก่อให้เกิดความสามารถที่จะให้บริการด้านสุขภาพด้วยความเข้าใจ ในเรื่องของยาและผลที่เกิดหลังจากการใช้ยา เพื่อให้การบำบัดรักษาให้เกิดผลดีแก่ผู้ป่วยมากที่สุด โดยจะรับผิดชอบร่วมกับบุคลากรสุขภาพอื่นๆ เช่น แพทย์ พยาบาล รวมถึงสัตวแพทย์ด้วย  ในอันที่จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  เภสัชศาสตร์ยังเกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์ผลิตยาในรูปแบบต่างๆ  ตามคุณภาพมาตรฐานที่เหมาะสมตามกำหนด

คุณสมบัติของการ เป็น เภสัชกร

1.สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไปในสาขาเภสัชศาสตร์
2.มีสุขภาพกายและจิตดี ไม่พิการ ไม่ตาบอดสี มีมนุษย์สัมพันธ์ มีความเป็นผู้นำเพราะอาจทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะในงานการผลิต มีบุคลิกภาพดี
3.รักในอาชีพ มีความรับผิดชอบสูง
4.มีความสนใจในวิชาวิทยาศาสคร์ เคมีชีววิทยา และสอบได้คะแนนดีในวิชาเหล่านี้
5.ชอบค้นคว้า ทดลอง ใช้ปัญญาในการวิเคราะห์
6.ละเอียด รอบคอบ ช่างสังเกต
7.มีความซื่อสัตย์
8.ชอบการท่องจำ เพราะต้องจำชนิด ส่วนประกอบของยา ชื่อยาและชื่อสารเคมีในการรักษาโรค ชื่อและประโยชน์ของต้นไม้ที่มียา

ระยะเวลาตามหลักสูตร

 
คณะเภสัชศาสตร์ หรือ สำนักวิชาเภสัชศาสตร์ (อังกฤษ: School of Pharmacy) เป็นสถานศึกษาพื้นฐานในการผลิตเภสัชกร โดยแบ่งเป็นการศึกษาในระดับปริญญาบัณฑิตและบัณฑิตศึกษา การศึกษาทางเภสัชศาสตร์โดยส่วนใหญ่เป็นการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ในหลายประเทศได้จัดหลักสูตรการศึกษาโดยใช้ระยะเวลาการศึกษา 3 - 6 ปี อันประกอบด้วย เภสัชศาสตรบัณฑิต, วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเภสัชศาสตร์ หรือในระดับผู้เชี่ยวชาญทางเภสัชกรรม (Doctor of Pharmacy) 

ระยะเวลาที่ใช้ในการสำเร็จการศึกษาจแตกต่างในแต่ละประเทศดังนี้

1.ประเทศไทยใช้เวลา 5 ปี ได้ ภบ หรือเรียน 6 ปี ได้ ภบบ
2.สหภาพยุโรป (European Union) รวมถึงสหราชอาณาจักร เดิมเรียน 4 ปีได้ ภบ  ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วยเรียน 4 ปี ได้ ภม  เลย
3.ประเทศออสเตรเลียใช้เวลา 4 ปี ได้ ภบ  ต่ออีก 2 ปีได้ ภม 
4.สหรัฐอเมริกาใช้เวลา 4 ปี ได้ ภบ ต่ออีก 2 ปีได้ ภบบ 


หน้าที่ของเภสัชกร

  • บริหารงานเกี่ยวกับการใช้ยาในทางคลินิก (clinical medication management)
  • การเฝ้าติดตามสถานการณ์ของโรคเฉพาะ (specialized monitoring) ที่เกี่ยวกับยาและผลของยาทั้งโรค   ธรรมดาและซับซ้อน
  • ทบทวนการใช้ยาอย่างละเอียดถี่ถ้วน (reviewing medication regimens)ติดตามการรักษาโรคอย่างต่อเนื่อง (monitoring of treatment regimens)
  • ติดตามดูแลสุขภาพอนามัยทั่วไปของผู้ป่วย (general health monitoring)
  • ปรุงยา (compounding medicines)
  • ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยทั่วไป (general health advice)
  • 8ให้การศึกษาแก่ผู้ป่วยเป็นการเฉพาะ (specific education) เกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคและการรักษาด้วยยา
  • ตรวจสอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการจ่ายยา (dispensing medicines)
  • ดูแลจัดเตรียม(provision)ยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์(non-prescription medicines)
  • ให้คำปรึกษาและแนะนำผู้ป่วยถึงการใช้ยาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด(optimal use of medicines)
  • แนะนำและรักษาโรคพื้นๆทั่วไป(common ailments)
  • ส่งต่อผู้ป่วยไปยังวิชาชีพสาธารณสุขอื่นที่ตรงกับโรคของผู้ป่วยมากกว่าถ้าจำเป็น
  • จัดเตรียมปริมาณยา (dosing drugs) ในผู้ป่วยตับและไตล้มเหลว
  • ประเมินผลการเคลื่อนไหวของยาในผู้ป่วย (pharmacokinetic evaluation)
  • ให้การศึกษาแก่แพทย์ (education of physicians) เกี่ยวกับการใช้ยาอย่างถูกต้อง
  • ร่วมกับวิชาชีพทางด้ายสาธารณสุขอื่นในการสั่งยา (prescribing medications) ให้คนไข้ในบางกรณี
  • ดูแล จัดเตรียม จัดหา และรักษาเภสัชภัณฑ์ให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน 

อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
         ตัวแทนจำหน่ายยา เจ้าของร้านขายยา ผู้ควบคุมห้องทดลองปฏิบัติการ   พนักงานตรวจสอบอาหารและยา


การเปรียบเทียบวิชาชีพเภสัชกรรมกับวิชาชีพอื่นๆ 
1. เภสัชศาสตร์ กับ แพทยศาสตร์ (Pharmacy VS Medicine)
สมัย ก่อน การเรียนเภสัชศาสตร์จะเน้นที่ตัวผลิตภัณฑ์ (Product-oriented) ส่วนการบริบาลผู้ป่วยนั้น (Patient-oriented) เป็นแนวคิดที่รับจากสหรัฐอเมริกาในยุคหลัง บางคนก็ยังแยกความแตกต่างระหว่างแพทย์กับเภสัชกรไม่ชัดเจน น้องลองดูซิว่า บทบาทหน้าที่ด้านล่างนี้ สมควรเป็นหน้าที่ของเภสัชกรหรือไม่ และซ้อนทับกับหน้าที่ของแพทย์หรือไม่ โดยหน้าที่ของเภสัชกรในการบริบาลทางเภสัชกรรม ประกอบด้วย
- การซักประวัติการใช้ยาของผู้ป่วย
- การบันทึกข้อมูลการใช้ยาของผู้ป่วย
- การประเมินการใช้ยา
- การติดตามผลการรักษาของยา
- การบริการเภสัชสนเทศ
- การให้คำปรึกษาเรื่องยาแก่ผู้ป่วย
- การให้คำปรึกษาเรื่องยาแก่บุคคลากรทางการแพทย์
- การให้ความรู้เรื่องยาแก่บุคคลากรทางการแพทย์
- การเตรียมยามะเร็งและสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือด
- การวิจัยยาในระดับคลินิก
ดัง นั้น ในมุมมองทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข เภสัชกร ก็คือ บุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและสาธารณสุข ที่ดูแลเรื่องของยา หรือ การใช้ยา ในการรักษา บำบัด บรรเทา และป้องกันโรค ซึ่งในกระบวนการรักษาเหล่านั้น อาจมีหลายวิธี เช่น การผ่าตัด การทำหัตถการ จิตบำบัด การฉายรังสี กายภาพบำบัด เป็นต้น แต่เภสัชกร จะดูแลเรื่องการใช้ยาในกระบวนการรักษา เช่น ตัวยา รูปแบบยา ขนาดยา ผลข้างเคียงของยา อาการไม่พึงประสงค์ของยา การแพ้ยา อันตรกิริยาของยา นอกจากนี้ ยังต้องดูแลเรื่องการผสมยาและการเตรียมยาด้วย โดยเฉพาะ การผสมยาฉีดและการเตรียมยามะเร็ง รวมทั้งสารอาหารที่ให้ทางหลอดเลือด
2. เภสัชศาสตร์ กับ เคมี (Pharmacy VS Chemistry)
เภสัชศาสตร์ ก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่ใช้ความรู้ทางเคมีเยอะมาก และบางคนก็สับสนว่าเภสัชต่างจากเคมีอย่างไร หรือนักเคมีสามารถทำงานแทนเภสัชกรได้หรือไม่ จึงมีคำถามที่จะถามนักเคมีและวิศวกรเคมี ดังนี้
- การผลิตยาเม็ดมีกี่วิธี ?
- จงยกตัวอย่างการเพิ่มค่าการละลายของตัวยาในการเตรียมตำรับยาน้ำ ?
- ตำแหน่งใดของตัวยา Sulfamethoxazole ที่มีผล Hypersensitivity Reaction
- Morphine ที่มีฤทธิ์ มีโครงสร้างเป็น (+) หรือ (-) ?
- จงบอกขั้นตอนการศึกษาสารสำคัญในพืชสมุนไพร ?
- การวิจัยยามีขั้นตอนอะไรบ้าง (เช่น Lead Compound และ Phase I-IV) ?
- ช่วงที่ยอมรับได้ในการวิเคราะห์ %LA ของยา Amoxycillin ในรูปแบบแคปซูล คือ ช่วงเท่าใด ?
- สารใดบ้างที่เป็นสารต้องห้ามในอาหาร ?
- ลักษณะเฉพาะของโรงงานผลิตยาฉีดมีอะไรบ้าง ?
- อนุภาคศาสตร์และวิทยากระแสมีผลต่อการผลิตยาอย่างไร ?
- ระบบการประกันคุณภาพของโรงงานยามีอะไรบ้าง


คณะเภสัชศาสตร์

  •  คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ(สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม) 
  • คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ(สาขาเภสัชกรรมอุตสาหการ)  
  • คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.เชียงใหม่ 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม) 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม) 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.อุบลราชธานี (สาขาวิชาการบริบาททางเภสัชกรรม) 
  • คณะเภสัชศาสตร์ ม.อุบลราชธานี (สาขาวิชาเภสัชกรรมอุตสาหการ) 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ รับ 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.นเรศวร (สาขาวิชาบริบาทเภสัชกรรม) 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหาสารคาม (สาขาวิชาการบริบาททางเภสัชกรรม) 
  • คณะเภสัชศาสตร์ ม.บูรพา 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ (สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม)
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ (สาขาเภสัชกรรมอุตสาหการ) 
  •  คณะเภสัชศาสตร์ ม.พายัพ (สาขาการบริบาลทางเภสัชกรรม) 

แนวทางในการประกอบอาชีพ

1.ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ทั้งในและต่างประเทศ
2.ทำงานในหน่วยงานของรัฐและเอกชน เช่น เภสัชกรโรงพยาบาล ศูนย์อนามัย สถานีอนามัย
3.เภสัชกรอุตสาหกรรม ในโรงพยาบาล หรือบริษัทจำหน่ายยาทั้งของรัฐและเอกชน แบ่งออกเป็นแผนกผลิต แผนกควบคุมมาตรฐาน และแผนกวิจัย
4.เภสัชกรชุมชน เป็นเจ้าของผู้จัดการหรือเภสัชกรประจำร้านขายยา
5.เภสัชกรการตลาด ทำหน้าที่แนะนำผลิตภัณฑ์ยา
    
 มหาลัยที่อยากเข้า

  • มหาลัยเชียงใหม่
  • มหาลัยนเรศวร



โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ

-  สายงานด้านการตลาด  มีความกระตือรือร้น มีความคล่องตัวในการค้าขาย แสวงหาความรู้ด้านการ              ตลาด รู้จักวิเคราะห์เศรษฐกิจและสังคมได้เป็นอย่างดี
-  สายงานด้านโรงพยาบาล  มีความสามารถในการบริหารงาน และการบริการที่ดี
-   สายงานราชการ  ขึ้นอยู่กับความรู้ ถวามสามารถและผลงานทางวิชาการ
-  สายงานด้านเอกชน  อยู่ที่ความรู้ความสามารถและผลงาน ความรับผิดชอบและความกระตือรือร้น


สถาบันที่เปิดสอนคณะเภสัชศาสตร์

  • เป็นลิงค์ของคณะเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย คลิกได้เลยนะจ๊ะ
  • เป็นลิงค์ของคณะเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย คลิกได้เลยนะจ๊ะ
  • เป็นลิงค์ของคณะเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย คลิกได้เลยนะจ๊ะ
  • คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


         อ้างอิง

        https://my.dek-d.com/writer/story/viewlongc.php?id=140705&chapter=21





ประวัติขอลไพทอน

                                                                                             ประวัติความเป็นมาของ Python ...